ตัวประกอบของ 68162 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68162
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68162 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68162 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68162 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68162 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68162 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 173, 197, 346, 394, 34081, 68162
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68162 ÷ 1 | = | 68162 | เหลือเศษ 0 |
68162 ÷ 2 | = | 34081 | เหลือเศษ 0 |
68162 ÷ 173 | = | 394 | เหลือเศษ 0 |
68162 ÷ 197 | = | 346 | เหลือเศษ 0 |
68162 ÷ 346 | = | 197 | เหลือเศษ 0 |
68162 ÷ 394 | = | 173 | เหลือเศษ 0 |
68162 ÷ 34081 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68162 ÷ 68162 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68162
1 x 68162 | = | 68162 |
2 x 34081 | = | 68162 |
173 x 394 | = | 68162 |
197 x 346 | = | 68162 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68162
1 + 2 + 173 + 197 + 346 + 394 + 34081 + 68162 = 103356
▶ ตัวประกอบของ 68162 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 173, 197
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68162 = 2 x 173 x 197
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68162 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68162 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68162 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34081
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68162
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68162 แบบที่หนึ่ง
- 68162
- 197
- 346
- 2
- 173
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68162 แบบที่สอง
- 68162
- 2
- 34081
- 173
- 197
ดังนั้น 68162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68162 =
2 x 173 x 197
2. การแยกตัวประกอบของ 68162 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68162 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68162 นั้นก็คือ 2, 173, 197 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68162
2)68162173)34081197)1971ดังนั้น 68162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68162 = 2 x 173 x 197วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68162
1แยกตัวประกอบของ 68162 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1731 x 19712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 173 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 197 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68162 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68162 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68162 นั้นก็คือ 2, 173, 197 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68162
2
)68162
173
)34081
197
)197
1
ดังนั้น 68162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68162 = 2 x 173 x 197
1แยกตัวประกอบของ 68162 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 1731 x 1971
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 173 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 197 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68162 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68162 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇