ตัวประกอบของ 625 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 625
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 625 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 625 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 625 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 625 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 625 มีทั้งหมด 5 ตัวคือ 1, 5, 25, 125, 625
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
625 ÷ 1 | = | 625 | เหลือเศษ 0 |
625 ÷ 5 | = | 125 | เหลือเศษ 0 |
625 ÷ 25 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
625 ÷ 125 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
625 ÷ 625 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 625
1 x 625 | = | 625 |
5 x 125 | = | 625 |
25 x 25 | = | 625 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 625
1 + 5 + 25 + 125 + 625 = 781
▶ ตัวประกอบของ 625 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 1 ตัวดังนี้
5
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
625 = 5 x 5 x 5 x 5
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 625 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
625 = 54
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 625 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
625 = 54
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 625 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 625 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 625 มา 1 คู่ เช่น 5 x 125
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 625
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 625 แบบที่หนึ่ง
- 625
- 25
- 5
- 5
- 25
- 5
- 5
- 25
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 625 แบบที่สอง
- 625
- 5
- 125
- 5
- 25
- 5
- 5
ดังนั้น 625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
625 =
5 x 5 x 5 x 5
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
625 =
54
2. การแยกตัวประกอบของ 625 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 625 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 625 นั้นก็คือ 5 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 625
5)6255)1255)255)51ดังนั้น 625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้625 = 5 x 5 x 5 x 5หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง625 = 54วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 625
1แยกตัวประกอบของ 625 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 542ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกัน แต่เนื่องจากข้อนี้มีผลบวกของเลขชี้กำลัง คือ 5 แค่ 1 ตัวจึงไม่ต้องนำไปคูณกับจำนวนใดดังนั้นคำตอบคือ 5✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 625 มีทั้งหมด 5 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 625 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 625 นั้นก็คือ 5 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 625
5
)625
5
)125
5
)25
5
)5
1
ดังนั้น 625 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
625 = 5 x 5 x 5 x 5
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
625 = 54
1แยกตัวประกอบของ 625 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 54
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 4 ให้เอา 4 + 1 = 5
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกัน แต่เนื่องจากข้อนี้มีผลบวกของเลขชี้กำลัง คือ 5 แค่ 1 ตัวจึงไม่ต้องนำไปคูณกับจำนวนใดดังนั้นคำตอบคือ 5✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 625 มีทั้งหมด 5 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 625 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇