ตัวประกอบของ 5266 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5266
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5266 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5266 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 5266 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5266 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5266 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 2633, 5266
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5266 ÷ 1 | = | 5266 | เหลือเศษ 0 |
| 5266 ÷ 2 | = | 2633 | เหลือเศษ 0 |
| 5266 ÷ 2633 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 5266 ÷ 5266 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5266
| 1 x 5266 | = | 5266 |
| 2 x 2633 | = | 5266 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5266
1 + 2 + 2633 + 5266 = 7902
▶ ตัวประกอบของ 5266 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 2633
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5266 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5266 = 2 x 2633
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5266 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5266 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5266 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2633
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5266
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5266
- 5266
- 2
- 2633
ดังนั้น 5266 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5266 =
2 x 2633
2. การแยกตัวประกอบของ 5266 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5266 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5266 นั้นก็คือ 2, 2633 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5266
2)52662633)26331ดังนั้น 5266 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5266 = 2 x 2633วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5266
1แยกตัวประกอบของ 5266 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 263312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2633 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5266 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5266 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5266 นั้นก็คือ 2, 2633 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5266
2
)5266
2633
)2633
1
ดังนั้น 5266 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5266 = 2 x 2633
1แยกตัวประกอบของ 5266 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 26331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2633 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5266 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5266 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇