ตัวประกอบของ 5275 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5275
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5275 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5275 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5275 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5275 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5275 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 5, 25, 211, 1055, 5275
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5275 ÷ 1 | = | 5275 | เหลือเศษ 0 |
5275 ÷ 5 | = | 1055 | เหลือเศษ 0 |
5275 ÷ 25 | = | 211 | เหลือเศษ 0 |
5275 ÷ 211 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
5275 ÷ 1055 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
5275 ÷ 5275 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5275
1 x 5275 | = | 5275 |
5 x 1055 | = | 5275 |
25 x 211 | = | 5275 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5275
1 + 5 + 25 + 211 + 1055 + 5275 = 6572
▶ ตัวประกอบของ 5275 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 211
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5275 = 5 x 5 x 211
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5275 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5275 = 52 x 211
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5275 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5275 = 52 x 211
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5275 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5275 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5275 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1055
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5275
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5275 แบบที่หนึ่ง
- 5275
- 25
- 5
- 5
- 211
- 25
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5275 แบบที่สอง
- 5275
- 5
- 1055
- 5
- 211
ดังนั้น 5275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5275 =
5 x 5 x 211
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5275 =
52 x 211 หรือ 52 x 2111
2. การแยกตัวประกอบของ 5275 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5275 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5275 นั้นก็คือ 5, 211 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5275
5)52755)1055211)2111ดังนั้น 5275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5275 = 5 x 5 x 211หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง5275 = 52 x 211 หรือ 52 x 2111วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5275
1แยกตัวประกอบของ 5275 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 21112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 211 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5275 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5275 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5275 นั้นก็คือ 5, 211 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5275
5
)5275
5
)1055
211
)211
1
ดังนั้น 5275 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5275 = 5 x 5 x 211
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5275 = 52 x 211 หรือ 52 x 2111
1แยกตัวประกอบของ 5275 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 2111
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 211 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5275 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5275 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇