โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5260 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5260

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5260 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5260 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 20, 263, 526, 1052, 1315, 2630, 5260
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5260 ÷ 1=5260เหลือเศษ 0
5260 ÷ 2=2630เหลือเศษ 0
5260 ÷ 4=1315เหลือเศษ 0
5260 ÷ 5=1052เหลือเศษ 0
5260 ÷ 10=526เหลือเศษ 0
5260 ÷ 20=263เหลือเศษ 0
5260 ÷ 263=20เหลือเศษ 0
5260 ÷ 526=10เหลือเศษ 0
5260 ÷ 1052=5เหลือเศษ 0
5260 ÷ 1315=4เหลือเศษ 0
5260 ÷ 2630=2เหลือเศษ 0
5260 ÷ 5260=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5260
1 x 5260
2 x 2630
4 x 1315
5 x 1052
10 x 526
20 x 263
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5260
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 20 + 263 + 526 + 1052 + 1315 + 2630 + 5260 = 11088
ตัวประกอบของ 5260 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 263
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5260 = 2 x 2 x 5 x 263
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5260 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5260 = 22 x 5 x 263
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5260 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5260 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5260 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2630
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5260
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5260 แบบที่หนึ่ง
  • 5260
    • 20
      • 4
        • 2
        • 2
      • 5
    • 263

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5260 แบบที่สอง
  • 5260
    • 2
    • 2630
      • 2
      • 1315
        • 5
        • 263
ดังนั้น 5260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5260 = 2 x 2 x 5 x 263
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5260 = 22 x 5 x 263 หรือ 22 x 51 x 2631

2. การแยกตัวประกอบของ 5260 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5260 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5260 นั้นก็คือ 2, 5, 263 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5260

2
)5260
2
)2630
5
)1315
263
)263
1
ดังนั้น 5260 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5260 = 2 x 2 x 5 x 263
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5260 = 22 x 5 x 263 หรือ 22 x 51 x 2631

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5260

1แยกตัวประกอบของ 5260 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 51 x 2631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 263 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5260 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5260 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇