ตัวประกอบของ 5276 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5276
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5276 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5276 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5276 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5276 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5276 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 1319, 2638, 5276
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5276 ÷ 1 | = | 5276 | เหลือเศษ 0 |
5276 ÷ 2 | = | 2638 | เหลือเศษ 0 |
5276 ÷ 4 | = | 1319 | เหลือเศษ 0 |
5276 ÷ 1319 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
5276 ÷ 2638 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5276 ÷ 5276 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5276
1 x 5276 | = | 5276 |
2 x 2638 | = | 5276 |
4 x 1319 | = | 5276 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5276
1 + 2 + 4 + 1319 + 2638 + 5276 = 9240
▶ ตัวประกอบของ 5276 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1319
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5276 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5276 = 2 x 2 x 1319
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5276 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5276 = 22 x 1319
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5276 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5276 = 22 x 1319
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5276 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5276 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5276 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2638
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5276
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5276 แบบที่หนึ่ง
- 5276
- 4
- 2
- 2
- 1319
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5276 แบบที่สอง
- 5276
- 2
- 2638
- 2
- 1319
ดังนั้น 5276 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5276 =
2 x 2 x 1319
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5276 =
22 x 1319 หรือ 22 x 13191
2. การแยกตัวประกอบของ 5276 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5276 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5276 นั้นก็คือ 2, 1319 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5276
2)52762)26381319)13191ดังนั้น 5276 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5276 = 2 x 2 x 1319หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง5276 = 22 x 1319 หรือ 22 x 13191วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5276
1แยกตัวประกอบของ 5276 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1319 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5276 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5276 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5276 นั้นก็คือ 2, 1319 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5276
2
)5276
2
)2638
1319
)1319
1
ดังนั้น 5276 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5276 = 2 x 2 x 1319
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5276 = 22 x 1319 หรือ 22 x 13191
1แยกตัวประกอบของ 5276 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 13191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1319 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5276 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5276 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇