ตัวประกอบของ 3478 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3478
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3478 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3478 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 3478 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3478 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3478 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 37, 47, 74, 94, 1739, 3478
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3478 ÷ 1 | = | 3478 | เหลือเศษ 0 |
3478 ÷ 2 | = | 1739 | เหลือเศษ 0 |
3478 ÷ 37 | = | 94 | เหลือเศษ 0 |
3478 ÷ 47 | = | 74 | เหลือเศษ 0 |
3478 ÷ 74 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
3478 ÷ 94 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
3478 ÷ 1739 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
3478 ÷ 3478 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3478
1 x 3478 | = | 3478 |
2 x 1739 | = | 3478 |
37 x 94 | = | 3478 |
47 x 74 | = | 3478 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3478
1 + 2 + 37 + 47 + 74 + 94 + 1739 + 3478 = 5472
▶ ตัวประกอบของ 3478 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 37, 47
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3478 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3478 = 2 x 37 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3478 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3478 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3478 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1739
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3478
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3478 แบบที่หนึ่ง
- 3478
- 47
- 74
- 2
- 37
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3478 แบบที่สอง
- 3478
- 2
- 1739
- 37
- 47
ดังนั้น 3478 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3478 =
2 x 37 x 47
2. การแยกตัวประกอบของ 3478 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3478 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3478 นั้นก็คือ 2, 37, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3478
2)347837)173947)471ดังนั้น 3478 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3478 = 2 x 37 x 47วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3478
1แยกตัวประกอบของ 3478 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 371 x 4712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3478 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3478 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3478 นั้นก็คือ 2, 37, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3478
2
)3478
37
)1739
47
)47
1
ดังนั้น 3478 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3478 = 2 x 37 x 47
1แยกตัวประกอบของ 3478 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 371 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3478 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3478 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇