ตัวประกอบของ 25517 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25517
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25517 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25517 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25517 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25517 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25517 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 17, 19, 79, 323, 1343, 1501, 25517
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25517 ÷ 1 | = | 25517 | เหลือเศษ 0 |
25517 ÷ 17 | = | 1501 | เหลือเศษ 0 |
25517 ÷ 19 | = | 1343 | เหลือเศษ 0 |
25517 ÷ 79 | = | 323 | เหลือเศษ 0 |
25517 ÷ 323 | = | 79 | เหลือเศษ 0 |
25517 ÷ 1343 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
25517 ÷ 1501 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
25517 ÷ 25517 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25517
1 x 25517 | = | 25517 |
17 x 1501 | = | 25517 |
19 x 1343 | = | 25517 |
79 x 323 | = | 25517 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25517
1 + 17 + 19 + 79 + 323 + 1343 + 1501 + 25517 = 28800
▶ ตัวประกอบของ 25517 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
17, 19, 79
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25517 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25517 = 17 x 19 x 79
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25517 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25517 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25517 มา 1 คู่ เช่น 17 x 1501
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25517
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25517 แบบที่หนึ่ง
- 25517
- 79
- 323
- 17
- 19
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25517 แบบที่สอง
- 25517
- 17
- 1501
- 19
- 79
ดังนั้น 25517 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25517 =
17 x 19 x 79
2. การแยกตัวประกอบของ 25517 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25517 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25517 นั้นก็คือ 17, 19, 79 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25517
17)2551719)150179)791ดังนั้น 25517 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25517 = 17 x 19 x 79วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25517
1แยกตัวประกอบของ 25517 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 191 x 7912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 79 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25517 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25517 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25517 นั้นก็คือ 17, 19, 79 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25517
17
)25517
19
)1501
79
)79
1
ดังนั้น 25517 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25517 = 17 x 19 x 79
1แยกตัวประกอบของ 25517 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 191 x 791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 79 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25517 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25517 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇