โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 2538 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2538

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 2538 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 2538 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 27, 47, 54, 94, 141, 282, 423, 846, 1269, 2538
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2538 ÷ 1=2538เหลือเศษ 0
2538 ÷ 2=1269เหลือเศษ 0
2538 ÷ 3=846เหลือเศษ 0
2538 ÷ 6=423เหลือเศษ 0
2538 ÷ 9=282เหลือเศษ 0
2538 ÷ 18=141เหลือเศษ 0
2538 ÷ 27=94เหลือเศษ 0
2538 ÷ 47=54เหลือเศษ 0
2538 ÷ 54=47เหลือเศษ 0
2538 ÷ 94=27เหลือเศษ 0
2538 ÷ 141=18เหลือเศษ 0
2538 ÷ 282=9เหลือเศษ 0
2538 ÷ 423=6เหลือเศษ 0
2538 ÷ 846=3เหลือเศษ 0
2538 ÷ 1269=2เหลือเศษ 0
2538 ÷ 2538=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2538
1 x 2538
2 x 1269
3 x 846
6 x 423
9 x 282
18 x 141
27 x 94
47 x 54
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2538
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 27 + 47 + 54 + 94 + 141 + 282 + 423 + 846 + 1269 + 2538 = 5760
ตัวประกอบของ 2538 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 47
การแยกตัวประกอบคืออะไร

2538 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

2538 = 2 x 3 x 3 x 3 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2538 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2538 = 2 x 33 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 2538 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2538 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2538 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1269
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2538
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2538 แบบที่หนึ่ง
  • 2538
    • 47
    • 54
      • 6
        • 2
        • 3
      • 9
        • 3
        • 3

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2538 แบบที่สอง
  • 2538
    • 2
    • 1269
      • 3
      • 423
        • 3
        • 141
          • 3
          • 47
ดังนั้น 2538 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2538 = 2 x 3 x 3 x 3 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2538 = 2 x 33 x 47 หรือ 21 x 33 x 471

2. การแยกตัวประกอบของ 2538 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 2538 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2538 นั้นก็คือ 2, 3, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2538

2
)2538
3
)1269
3
)423
3
)141
47
)47
1
ดังนั้น 2538 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2538 = 2 x 3 x 3 x 3 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2538 = 2 x 33 x 47 หรือ 21 x 33 x 471

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2538

1แยกตัวประกอบของ 2538 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 33 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2538 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2538 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇