ตัวประกอบของ 2546 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2546
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2546 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2546 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2546 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2546 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2546 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 19, 38, 67, 134, 1273, 2546
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2546 ÷ 1 | = | 2546 | เหลือเศษ 0 |
2546 ÷ 2 | = | 1273 | เหลือเศษ 0 |
2546 ÷ 19 | = | 134 | เหลือเศษ 0 |
2546 ÷ 38 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
2546 ÷ 67 | = | 38 | เหลือเศษ 0 |
2546 ÷ 134 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
2546 ÷ 1273 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
2546 ÷ 2546 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2546
1 x 2546 | = | 2546 |
2 x 1273 | = | 2546 |
19 x 134 | = | 2546 |
38 x 67 | = | 2546 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2546
1 + 2 + 19 + 38 + 67 + 134 + 1273 + 2546 = 4080
▶ ตัวประกอบของ 2546 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 19, 67
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2546 = 2 x 19 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2546 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2546 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2546 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1273
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2546
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2546 แบบที่หนึ่ง
- 2546
- 38
- 2
- 19
- 67
- 38
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2546 แบบที่สอง
- 2546
- 2
- 1273
- 19
- 67
ดังนั้น 2546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2546 =
2 x 19 x 67
2. การแยกตัวประกอบของ 2546 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2546 นั้นก็คือ 2, 19, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2546
2)254619)127367)671ดังนั้น 2546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2546 = 2 x 19 x 67วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2546
1แยกตัวประกอบของ 2546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 6712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2546 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2546 นั้นก็คือ 2, 19, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2546
2
)2546
19
)1273
67
)67
1
ดังนั้น 2546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2546 = 2 x 19 x 67
1แยกตัวประกอบของ 2546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 191 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2546 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2546 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇