ตัวประกอบของ 1932 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1932
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1932 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1932 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1932 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1932 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1932 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 7, 12, 14, 21, 23, 28, 42, 46, 69, 84, 92, 138, 161, 276, 322, 483, 644, 966, 1932
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1932 ÷ 1 | = | 1932 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 2 | = | 966 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 3 | = | 644 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 4 | = | 483 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 6 | = | 322 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 7 | = | 276 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 12 | = | 161 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 14 | = | 138 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 21 | = | 92 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 23 | = | 84 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 28 | = | 69 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 42 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 46 | = | 42 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 69 | = | 28 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 84 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 92 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 138 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 161 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 276 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 322 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 483 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 644 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 966 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
1932 ÷ 1932 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1932
1 x 1932 | = | 1932 |
2 x 966 | = | 1932 |
3 x 644 | = | 1932 |
4 x 483 | = | 1932 |
6 x 322 | = | 1932 |
7 x 276 | = | 1932 |
12 x 161 | = | 1932 |
14 x 138 | = | 1932 |
21 x 92 | = | 1932 |
23 x 84 | = | 1932 |
28 x 69 | = | 1932 |
42 x 46 | = | 1932 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1932
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 7 + 12 + 14 + 21 + 23 + 28 + 42 + 46 + 69 + 84 + 92 + 138 + 161 + 276 + 322 + 483 + 644 + 966 + 1932 = 5376
▶ ตัวประกอบของ 1932 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 7, 23
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1932 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1932 = 2 x 2 x 3 x 7 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1932 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1932 = 22 x 3 x 7 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1932 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1932 = 22 x 3 x 7 x 23
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1932 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1932 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1932 มา 1 คู่ เช่น 2 x 966
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1932
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1932 แบบที่หนึ่ง
- 1932
- 42
- 6
- 2
- 3
- 7
- 6
- 46
- 2
- 23
- 42
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1932 แบบที่สอง
- 1932
- 2
- 966
- 2
- 483
- 3
- 161
- 7
- 23
ดังนั้น 1932 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1932 =
2 x 2 x 3 x 7 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1932 =
22 x 3 x 7 x 23 หรือ 22 x 31 x 71 x 231
2. การแยกตัวประกอบของ 1932 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1932 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1932 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1932
2)19322)9663)4837)16123)231ดังนั้น 1932 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1932 = 2 x 2 x 3 x 7 x 23หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง1932 = 22 x 3 x 7 x 23 หรือ 22 x 31 x 71 x 231วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1932
1แยกตัวประกอบของ 1932 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 71 x 2312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1932 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1932 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1932 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1932
2
)1932
2
)966
3
)483
7
)161
23
)23
1
ดังนั้น 1932 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1932 = 2 x 2 x 3 x 7 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1932 = 22 x 3 x 7 x 23 หรือ 22 x 31 x 71 x 231
1แยกตัวประกอบของ 1932 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 71 x 231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1932 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1932 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇