ตัวประกอบของ 1930 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1930
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1930 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1930 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1930 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1930 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1930 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 193, 386, 965, 1930
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1930 ÷ 1 | = | 1930 | เหลือเศษ 0 |
1930 ÷ 2 | = | 965 | เหลือเศษ 0 |
1930 ÷ 5 | = | 386 | เหลือเศษ 0 |
1930 ÷ 10 | = | 193 | เหลือเศษ 0 |
1930 ÷ 193 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
1930 ÷ 386 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
1930 ÷ 965 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
1930 ÷ 1930 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1930
1 x 1930 | = | 1930 |
2 x 965 | = | 1930 |
5 x 386 | = | 1930 |
10 x 193 | = | 1930 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1930
1 + 2 + 5 + 10 + 193 + 386 + 965 + 1930 = 3492
▶ ตัวประกอบของ 1930 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 193
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1930 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1930 = 2 x 5 x 193
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1930 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1930 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1930 มา 1 คู่ เช่น 2 x 965
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1930
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1930 แบบที่หนึ่ง
- 1930
- 10
- 2
- 5
- 193
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1930 แบบที่สอง
- 1930
- 2
- 965
- 5
- 193
ดังนั้น 1930 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1930 =
2 x 5 x 193
2. การแยกตัวประกอบของ 1930 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1930 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1930 นั้นก็คือ 2, 5, 193 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1930
2)19305)965193)1931ดังนั้น 1930 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1930 = 2 x 5 x 193วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1930
1แยกตัวประกอบของ 1930 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 19312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 193 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1930 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1930 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1930 นั้นก็คือ 2, 5, 193 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1930
2
)1930
5
)965
193
)193
1
ดังนั้น 1930 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1930 = 2 x 5 x 193
1แยกตัวประกอบของ 1930 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 1931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 193 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1930 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1930 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇