โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 18536 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 18536

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 18536 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 18536 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 331, 662, 1324, 2317, 2648, 4634, 9268, 18536
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
18536 ÷ 1=18536เหลือเศษ 0
18536 ÷ 2=9268เหลือเศษ 0
18536 ÷ 4=4634เหลือเศษ 0
18536 ÷ 7=2648เหลือเศษ 0
18536 ÷ 8=2317เหลือเศษ 0
18536 ÷ 14=1324เหลือเศษ 0
18536 ÷ 28=662เหลือเศษ 0
18536 ÷ 56=331เหลือเศษ 0
18536 ÷ 331=56เหลือเศษ 0
18536 ÷ 662=28เหลือเศษ 0
18536 ÷ 1324=14เหลือเศษ 0
18536 ÷ 2317=8เหลือเศษ 0
18536 ÷ 2648=7เหลือเศษ 0
18536 ÷ 4634=4เหลือเศษ 0
18536 ÷ 9268=2เหลือเศษ 0
18536 ÷ 18536=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 18536
1 x 18536
2 x 9268
4 x 4634
7 x 2648
8 x 2317
14 x 1324
28 x 662
56 x 331
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 18536
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 331 + 662 + 1324 + 2317 + 2648 + 4634 + 9268 + 18536 = 39840
ตัวประกอบของ 18536 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 331
การแยกตัวประกอบคืออะไร

18536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

18536 = 2 x 2 x 2 x 7 x 331
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 18536 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
18536 = 23 x 7 x 331
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 18536 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 18536 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 18536 มา 1 คู่ เช่น 2 x 9268
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18536
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18536 แบบที่หนึ่ง
  • 18536
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 331

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18536 แบบที่สอง
  • 18536
    • 2
    • 9268
      • 2
      • 4634
        • 2
        • 2317
          • 7
          • 331
ดังนั้น 18536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18536 = 2 x 2 x 2 x 7 x 331
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
18536 = 23 x 7 x 331 หรือ 23 x 71 x 3311

2. การแยกตัวประกอบของ 18536 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 18536 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18536 นั้นก็คือ 2, 7, 331 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18536

2
)18536
2
)9268
2
)4634
7
)2317
331
)331
1
ดังนั้น 18536 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18536 = 2 x 2 x 2 x 7 x 331
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
18536 = 23 x 7 x 331 หรือ 23 x 71 x 3311

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 18536

1แยกตัวประกอบของ 18536 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 3311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 331 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18536 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 18536 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇