ตัวประกอบของ 18537 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 18537
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 18537 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 18537 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 18537 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 18537 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 18537 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 37, 111, 167, 501, 6179, 18537
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 18537 ÷ 1 | = | 18537 | เหลือเศษ 0 |
| 18537 ÷ 3 | = | 6179 | เหลือเศษ 0 |
| 18537 ÷ 37 | = | 501 | เหลือเศษ 0 |
| 18537 ÷ 111 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
| 18537 ÷ 167 | = | 111 | เหลือเศษ 0 |
| 18537 ÷ 501 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
| 18537 ÷ 6179 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 18537 ÷ 18537 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 18537
| 1 x 18537 | = | 18537 |
| 3 x 6179 | = | 18537 |
| 37 x 501 | = | 18537 |
| 111 x 167 | = | 18537 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 18537
1 + 3 + 37 + 111 + 167 + 501 + 6179 + 18537 = 25536
▶ ตัวประกอบของ 18537 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 37, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 18537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18537 = 3 x 37 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 18537 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 18537 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 18537 มา 1 คู่ เช่น 3 x 6179
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18537
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18537 แบบที่หนึ่ง
- 18537
- 111
- 3
- 37
- 167
- 111
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18537 แบบที่สอง
- 18537
- 3
- 6179
- 37
- 167
ดังนั้น 18537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18537 =
3 x 37 x 167
2. การแยกตัวประกอบของ 18537 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 18537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18537 นั้นก็คือ 3, 37, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18537
3)1853737)6179167)1671ดังนั้น 18537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้18537 = 3 x 37 x 167วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 18537
1แยกตัวประกอบของ 18537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 371 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18537 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 18537 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18537 นั้นก็คือ 3, 37, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18537
3
)18537
37
)6179
167
)167
1
ดังนั้น 18537 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18537 = 3 x 37 x 167
1แยกตัวประกอบของ 18537 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 371 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18537 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 18537 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
