ตัวประกอบของ 1606 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1606
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1606 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1606 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1606 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1606 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1606 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 11, 22, 73, 146, 803, 1606
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1606 ÷ 1 | = | 1606 | เหลือเศษ 0 |
1606 ÷ 2 | = | 803 | เหลือเศษ 0 |
1606 ÷ 11 | = | 146 | เหลือเศษ 0 |
1606 ÷ 22 | = | 73 | เหลือเศษ 0 |
1606 ÷ 73 | = | 22 | เหลือเศษ 0 |
1606 ÷ 146 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
1606 ÷ 803 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
1606 ÷ 1606 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1606
1 x 1606 | = | 1606 |
2 x 803 | = | 1606 |
11 x 146 | = | 1606 |
22 x 73 | = | 1606 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1606
1 + 2 + 11 + 22 + 73 + 146 + 803 + 1606 = 2664
▶ ตัวประกอบของ 1606 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 11, 73
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1606 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1606 = 2 x 11 x 73
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1606 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1606 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1606 มา 1 คู่ เช่น 2 x 803
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1606
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1606 แบบที่หนึ่ง
- 1606
- 22
- 2
- 11
- 73
- 22
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1606 แบบที่สอง
- 1606
- 2
- 803
- 11
- 73
ดังนั้น 1606 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1606 =
2 x 11 x 73
2. การแยกตัวประกอบของ 1606 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1606 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1606 นั้นก็คือ 2, 11, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1606
2)160611)80373)731ดังนั้น 1606 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1606 = 2 x 11 x 73วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1606
1แยกตัวประกอบของ 1606 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 111 x 7312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1606 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1606 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1606 นั้นก็คือ 2, 11, 73 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1606
2
)1606
11
)803
73
)73
1
ดังนั้น 1606 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1606 = 2 x 11 x 73
1แยกตัวประกอบของ 1606 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 111 x 731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 73 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1606 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1606 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇