ตัวประกอบของ 1603 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1603
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1603 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1603 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 1603 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1603 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1603 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 7, 229, 1603
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1603 ÷ 1 | = | 1603 | เหลือเศษ 0 |
1603 ÷ 7 | = | 229 | เหลือเศษ 0 |
1603 ÷ 229 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
1603 ÷ 1603 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1603
1 x 1603 | = | 1603 |
7 x 229 | = | 1603 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1603
1 + 7 + 229 + 1603 = 1840
▶ ตัวประกอบของ 1603 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
7, 229
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1603 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1603 = 7 x 229
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1603 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1603 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1603 มา 1 คู่ เช่น 7 x 229
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1603
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1603
- 1603
- 7
- 229
ดังนั้น 1603 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1603 =
7 x 229
2. การแยกตัวประกอบของ 1603 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1603 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1603 นั้นก็คือ 7, 229 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1603
7)1603229)2291ดังนั้น 1603 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1603 = 7 x 229วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1603
1แยกตัวประกอบของ 1603 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 22912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 229 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1603 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1603 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1603 นั้นก็คือ 7, 229 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1603
7
)1603
229
)229
1
ดังนั้น 1603 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1603 = 7 x 229
1แยกตัวประกอบของ 1603 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 2291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 229 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1603 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1603 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇