ตัวประกอบของ 68153 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68153
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68153 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68153 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68153 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68153 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68153 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 17, 19, 211, 323, 3587, 4009, 68153
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68153 ÷ 1 | = | 68153 | เหลือเศษ 0 |
68153 ÷ 17 | = | 4009 | เหลือเศษ 0 |
68153 ÷ 19 | = | 3587 | เหลือเศษ 0 |
68153 ÷ 211 | = | 323 | เหลือเศษ 0 |
68153 ÷ 323 | = | 211 | เหลือเศษ 0 |
68153 ÷ 3587 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
68153 ÷ 4009 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
68153 ÷ 68153 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68153
1 x 68153 | = | 68153 |
17 x 4009 | = | 68153 |
19 x 3587 | = | 68153 |
211 x 323 | = | 68153 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68153
1 + 17 + 19 + 211 + 323 + 3587 + 4009 + 68153 = 76320
▶ ตัวประกอบของ 68153 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
17, 19, 211
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68153 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68153 = 17 x 19 x 211
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68153 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68153 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68153 มา 1 คู่ เช่น 17 x 4009
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68153
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68153 แบบที่หนึ่ง
- 68153
- 211
- 323
- 17
- 19
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68153 แบบที่สอง
- 68153
- 17
- 4009
- 19
- 211
ดังนั้น 68153 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68153 =
17 x 19 x 211
2. การแยกตัวประกอบของ 68153 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68153 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68153 นั้นก็คือ 17, 19, 211 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68153
17)6815319)4009211)2111ดังนั้น 68153 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68153 = 17 x 19 x 211วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68153
1แยกตัวประกอบของ 68153 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 191 x 21112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 211 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68153 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68153 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68153 นั้นก็คือ 17, 19, 211 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68153
17
)68153
19
)4009
211
)211
1
ดังนั้น 68153 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68153 = 17 x 19 x 211
1แยกตัวประกอบของ 68153 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 171 x 191 x 2111
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 211 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68153 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68153 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇