ตัวประกอบของ 68146 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68146
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68146 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68146 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 68146 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68146 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68146 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 2621, 5242, 34073, 68146
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
68146 ÷ 1 | = | 68146 | เหลือเศษ 0 |
68146 ÷ 2 | = | 34073 | เหลือเศษ 0 |
68146 ÷ 13 | = | 5242 | เหลือเศษ 0 |
68146 ÷ 26 | = | 2621 | เหลือเศษ 0 |
68146 ÷ 2621 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
68146 ÷ 5242 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
68146 ÷ 34073 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
68146 ÷ 68146 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68146
1 x 68146 | = | 68146 |
2 x 34073 | = | 68146 |
13 x 5242 | = | 68146 |
26 x 2621 | = | 68146 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68146
1 + 2 + 13 + 26 + 2621 + 5242 + 34073 + 68146 = 110124
▶ ตัวประกอบของ 68146 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 2621
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68146 = 2 x 13 x 2621
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68146 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68146 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68146 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34073
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68146
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68146 แบบที่หนึ่ง
- 68146
- 26
- 2
- 13
- 2621
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68146 แบบที่สอง
- 68146
- 2
- 34073
- 13
- 2621
ดังนั้น 68146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68146 =
2 x 13 x 2621
2. การแยกตัวประกอบของ 68146 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68146 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68146 นั้นก็คือ 2, 13, 2621 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68146
2)6814613)340732621)26211ดังนั้น 68146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68146 = 2 x 13 x 2621วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68146
1แยกตัวประกอบของ 68146 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 262112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2621 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68146 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68146 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68146 นั้นก็คือ 2, 13, 2621 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68146
2
)68146
13
)34073
2621
)2621
1
ดังนั้น 68146 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68146 = 2 x 13 x 2621
1แยกตัวประกอบของ 68146 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 26211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2621 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68146 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68146 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇