ตัวประกอบของ 98466 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 98466
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 98466 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 98466 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 98466 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 98466 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 98466 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 16411, 32822, 49233, 98466
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 98466 ÷ 1 | = | 98466 | เหลือเศษ 0 |
| 98466 ÷ 2 | = | 49233 | เหลือเศษ 0 |
| 98466 ÷ 3 | = | 32822 | เหลือเศษ 0 |
| 98466 ÷ 6 | = | 16411 | เหลือเศษ 0 |
| 98466 ÷ 16411 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 98466 ÷ 32822 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 98466 ÷ 49233 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 98466 ÷ 98466 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 98466
| 1 x 98466 | = | 98466 |
| 2 x 49233 | = | 98466 |
| 3 x 32822 | = | 98466 |
| 6 x 16411 | = | 98466 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 98466
1 + 2 + 3 + 6 + 16411 + 32822 + 49233 + 98466 = 196944
▶ ตัวประกอบของ 98466 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 16411
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 98466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
98466 = 2 x 3 x 16411
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 98466 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 98466 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 98466 มา 1 คู่ เช่น 2 x 49233
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 98466
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 98466 แบบที่หนึ่ง
- 98466
- 6
- 2
- 3
- 16411
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 98466 แบบที่สอง
- 98466
- 2
- 49233
- 3
- 16411
ดังนั้น 98466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
98466 =
2 x 3 x 16411
2. การแยกตัวประกอบของ 98466 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 98466 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 98466 นั้นก็คือ 2, 3, 16411 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 98466
2)984663)4923316411)164111ดังนั้น 98466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้98466 = 2 x 3 x 16411วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 98466
1แยกตัวประกอบของ 98466 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 1641112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 16411 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 98466 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 98466 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 98466 นั้นก็คือ 2, 3, 16411 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 98466
2
)98466
3
)49233
16411
)16411
1
ดังนั้น 98466 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
98466 = 2 x 3 x 16411
1แยกตัวประกอบของ 98466 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 164111
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 16411 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 98466 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 98466 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇