ตัวประกอบของ 6915 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6915
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6915 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6915 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6915 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6915 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6915 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 5, 15, 461, 1383, 2305, 6915
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6915 ÷ 1 | = | 6915 | เหลือเศษ 0 |
6915 ÷ 3 | = | 2305 | เหลือเศษ 0 |
6915 ÷ 5 | = | 1383 | เหลือเศษ 0 |
6915 ÷ 15 | = | 461 | เหลือเศษ 0 |
6915 ÷ 461 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
6915 ÷ 1383 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
6915 ÷ 2305 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
6915 ÷ 6915 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6915
1 x 6915 | = | 6915 |
3 x 2305 | = | 6915 |
5 x 1383 | = | 6915 |
15 x 461 | = | 6915 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6915
1 + 3 + 5 + 15 + 461 + 1383 + 2305 + 6915 = 11088
▶ ตัวประกอบของ 6915 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 461
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6915 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6915 = 3 x 5 x 461
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6915 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6915 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6915 มา 1 คู่ เช่น 3 x 2305
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6915
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6915 แบบที่หนึ่ง
- 6915
- 15
- 3
- 5
- 461
- 15
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6915 แบบที่สอง
- 6915
- 3
- 2305
- 5
- 461
ดังนั้น 6915 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6915 =
3 x 5 x 461
2. การแยกตัวประกอบของ 6915 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6915 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6915 นั้นก็คือ 3, 5, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6915
3)69155)2305461)4611ดังนั้น 6915 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6915 = 3 x 5 x 461วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6915
1แยกตัวประกอบของ 6915 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 46112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6915 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6915 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6915 นั้นก็คือ 3, 5, 461 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6915
3
)6915
5
)2305
461
)461
1
ดังนั้น 6915 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6915 = 3 x 5 x 461
1แยกตัวประกอบของ 6915 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 51 x 4611
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 461 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6915 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6915 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇