ตัวประกอบของ 6925 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 6925
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 6925 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 6925 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 6925 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 6925 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 6925 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 5, 25, 277, 1385, 6925
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
6925 ÷ 1 | = | 6925 | เหลือเศษ 0 |
6925 ÷ 5 | = | 1385 | เหลือเศษ 0 |
6925 ÷ 25 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
6925 ÷ 277 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
6925 ÷ 1385 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
6925 ÷ 6925 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 6925
1 x 6925 | = | 6925 |
5 x 1385 | = | 6925 |
25 x 277 | = | 6925 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 6925
1 + 5 + 25 + 277 + 1385 + 6925 = 8618
▶ ตัวประกอบของ 6925 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 6925 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6925 = 5 x 5 x 277
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 6925 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6925 = 52 x 277
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 6925 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
6925 = 52 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 6925 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 6925 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 6925 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1385
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6925
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6925 แบบที่หนึ่ง
- 6925
- 25
- 5
- 5
- 277
- 25
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 6925 แบบที่สอง
- 6925
- 5
- 1385
- 5
- 277
ดังนั้น 6925 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6925 =
5 x 5 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6925 =
52 x 277 หรือ 52 x 2771
2. การแยกตัวประกอบของ 6925 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 6925 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6925 นั้นก็คือ 5, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6925
5)69255)1385277)2771ดังนั้น 6925 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้6925 = 5 x 5 x 277หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง6925 = 52 x 277 หรือ 52 x 2771วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 6925
1แยกตัวประกอบของ 6925 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6925 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 6925 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 6925 นั้นก็คือ 5, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 6925
5
)6925
5
)1385
277
)277
1
ดังนั้น 6925 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
6925 = 5 x 5 x 277
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
6925 = 52 x 277 หรือ 52 x 2771
1แยกตัวประกอบของ 6925 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 6925 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 6925 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇