ตัวประกอบของ 68461 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68461
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68461 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68461 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 68461 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68461 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68461 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 223, 307, 68461
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 68461 ÷ 1 | = | 68461 | เหลือเศษ 0 |
| 68461 ÷ 223 | = | 307 | เหลือเศษ 0 |
| 68461 ÷ 307 | = | 223 | เหลือเศษ 0 |
| 68461 ÷ 68461 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68461
| 1 x 68461 | = | 68461 |
| 223 x 307 | = | 68461 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68461
1 + 223 + 307 + 68461 = 68992
▶ ตัวประกอบของ 68461 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
223, 307
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68461 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68461 = 223 x 307
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68461 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68461 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68461 มา 1 คู่ เช่น 223 x 307
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68461
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68461
- 68461
- 223
- 307
ดังนั้น 68461 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68461 =
223 x 307
2. การแยกตัวประกอบของ 68461 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68461 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68461 นั้นก็คือ 223, 307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68461
223)68461307)3071ดังนั้น 68461 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68461 = 223 x 307วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68461
1แยกตัวประกอบของ 68461 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 2231 x 30712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68461 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68461 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68461 นั้นก็คือ 223, 307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68461
223
)68461
307
)307
1
ดังนั้น 68461 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68461 = 223 x 307
1แยกตัวประกอบของ 68461 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 2231 x 3071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68461 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68461 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇