โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 684 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 684

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 684 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 684 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 9, 12, 18, 19, 36, 38, 57, 76, 114, 171, 228, 342, 684
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
684 ÷ 1=684เหลือเศษ 0
684 ÷ 2=342เหลือเศษ 0
684 ÷ 3=228เหลือเศษ 0
684 ÷ 4=171เหลือเศษ 0
684 ÷ 6=114เหลือเศษ 0
684 ÷ 9=76เหลือเศษ 0
684 ÷ 12=57เหลือเศษ 0
684 ÷ 18=38เหลือเศษ 0
684 ÷ 19=36เหลือเศษ 0
684 ÷ 36=19เหลือเศษ 0
684 ÷ 38=18เหลือเศษ 0
684 ÷ 57=12เหลือเศษ 0
684 ÷ 76=9เหลือเศษ 0
684 ÷ 114=6เหลือเศษ 0
684 ÷ 171=4เหลือเศษ 0
684 ÷ 228=3เหลือเศษ 0
684 ÷ 342=2เหลือเศษ 0
684 ÷ 684=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 684
1 x 684
2 x 342
3 x 228
4 x 171
6 x 114
9 x 76
12 x 57
18 x 38
19 x 36
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 684
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 9 + 12 + 18 + 19 + 36 + 38 + 57 + 76 + 114 + 171 + 228 + 342 + 684 = 1820
ตัวประกอบของ 684 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 19
การแยกตัวประกอบคืออะไร

684 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

684 = 2 x 2 x 3 x 3 x 19
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 684 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
684 = 22 x 32 x 19
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 684 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 684 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 684 มา 1 คู่ เช่น 2 x 342
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 684
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 684 แบบที่หนึ่ง
  • 684
    • 19
    • 36
      • 6
        • 2
        • 3
      • 6
        • 2
        • 3

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 684 แบบที่สอง
  • 684
    • 2
    • 342
      • 2
      • 171
        • 3
        • 57
          • 3
          • 19
ดังนั้น 684 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
684 = 2 x 2 x 3 x 3 x 19
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
684 = 22 x 32 x 19 หรือ 22 x 32 x 191

2. การแยกตัวประกอบของ 684 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 684 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 684 นั้นก็คือ 2, 3, 19 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 684

2
)684
2
)342
3
)171
3
)57
19
)19
1
ดังนั้น 684 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
684 = 2 x 2 x 3 x 3 x 19
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
684 = 22 x 32 x 19 หรือ 22 x 32 x 191

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 684

1แยกตัวประกอบของ 684 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 32 x 191
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 684 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 684 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇