โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65532 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65532

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65532 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65532 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 12, 43, 86, 127, 129, 172, 254, 258, 381, 508, 516, 762, 1524, 5461, 10922, 16383, 21844, 32766, 65532
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65532 ÷ 1=65532เหลือเศษ 0
65532 ÷ 2=32766เหลือเศษ 0
65532 ÷ 3=21844เหลือเศษ 0
65532 ÷ 4=16383เหลือเศษ 0
65532 ÷ 6=10922เหลือเศษ 0
65532 ÷ 12=5461เหลือเศษ 0
65532 ÷ 43=1524เหลือเศษ 0
65532 ÷ 86=762เหลือเศษ 0
65532 ÷ 127=516เหลือเศษ 0
65532 ÷ 129=508เหลือเศษ 0
65532 ÷ 172=381เหลือเศษ 0
65532 ÷ 254=258เหลือเศษ 0
65532 ÷ 258=254เหลือเศษ 0
65532 ÷ 381=172เหลือเศษ 0
65532 ÷ 508=129เหลือเศษ 0
65532 ÷ 516=127เหลือเศษ 0
65532 ÷ 762=86เหลือเศษ 0
65532 ÷ 1524=43เหลือเศษ 0
65532 ÷ 5461=12เหลือเศษ 0
65532 ÷ 10922=6เหลือเศษ 0
65532 ÷ 16383=4เหลือเศษ 0
65532 ÷ 21844=3เหลือเศษ 0
65532 ÷ 32766=2เหลือเศษ 0
65532 ÷ 65532=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65532
1 x 65532
2 x 32766
3 x 21844
4 x 16383
6 x 10922
12 x 5461
43 x 1524
86 x 762
127 x 516
129 x 508
172 x 381
254 x 258
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65532
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 12 + 43 + 86 + 127 + 129 + 172 + 254 + 258 + 381 + 508 + 516 + 762 + 1524 + 5461 + 10922 + 16383 + 21844 + 32766 + 65532 = 157696
ตัวประกอบของ 65532 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 43, 127
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65532 = 2 x 2 x 3 x 43 x 127
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65532 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65532 = 22 x 3 x 43 x 127
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65532 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65532 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65532 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32766
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65532
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65532 แบบที่หนึ่ง
  • 65532
    • 254
      • 2
      • 127
    • 258
      • 6
        • 2
        • 3
      • 43

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65532 แบบที่สอง
  • 65532
    • 2
    • 32766
      • 2
      • 16383
        • 3
        • 5461
          • 43
          • 127
ดังนั้น 65532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65532 = 2 x 2 x 3 x 43 x 127
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65532 = 22 x 3 x 43 x 127 หรือ 22 x 31 x 431 x 1271

2. การแยกตัวประกอบของ 65532 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65532 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65532 นั้นก็คือ 2, 3, 43, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65532

2
)65532
2
)32766
3
)16383
43
)5461
127
)127
1
ดังนั้น 65532 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65532 = 2 x 2 x 3 x 43 x 127
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65532 = 22 x 3 x 43 x 127 หรือ 22 x 31 x 431 x 1271

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65532

1แยกตัวประกอบของ 65532 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 431 x 1271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65532 มีทั้งหมด 24 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65532 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇