โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 65468 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65468

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 65468 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 65468 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 13, 26, 52, 1259, 2518, 5036, 16367, 32734, 65468
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65468 ÷ 1=65468เหลือเศษ 0
65468 ÷ 2=32734เหลือเศษ 0
65468 ÷ 4=16367เหลือเศษ 0
65468 ÷ 13=5036เหลือเศษ 0
65468 ÷ 26=2518เหลือเศษ 0
65468 ÷ 52=1259เหลือเศษ 0
65468 ÷ 1259=52เหลือเศษ 0
65468 ÷ 2518=26เหลือเศษ 0
65468 ÷ 5036=13เหลือเศษ 0
65468 ÷ 16367=4เหลือเศษ 0
65468 ÷ 32734=2เหลือเศษ 0
65468 ÷ 65468=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65468
1 x 65468
2 x 32734
4 x 16367
13 x 5036
26 x 2518
52 x 1259
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65468
1 + 2 + 4 + 13 + 26 + 52 + 1259 + 2518 + 5036 + 16367 + 32734 + 65468 = 123480
ตัวประกอบของ 65468 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 1259
การแยกตัวประกอบคืออะไร

65468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

65468 = 2 x 2 x 13 x 1259
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65468 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65468 = 22 x 13 x 1259
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 65468 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65468 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65468 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32734
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65468
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65468 แบบที่หนึ่ง
  • 65468
    • 52
      • 4
        • 2
        • 2
      • 13
    • 1259

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65468 แบบที่สอง
  • 65468
    • 2
    • 32734
      • 2
      • 16367
        • 13
        • 1259
ดังนั้น 65468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65468 = 2 x 2 x 13 x 1259
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65468 = 22 x 13 x 1259 หรือ 22 x 131 x 12591

2. การแยกตัวประกอบของ 65468 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 65468 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65468 นั้นก็คือ 2, 13, 1259 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65468

2
)65468
2
)32734
13
)16367
1259
)1259
1
ดังนั้น 65468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65468 = 2 x 2 x 13 x 1259
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65468 = 22 x 13 x 1259 หรือ 22 x 131 x 12591

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65468

1แยกตัวประกอบของ 65468 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 12591
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 1259 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65468 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65468 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇