ตัวประกอบของ 65350 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65350
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65350 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65350 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65350 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65350 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65350 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 25, 50, 1307, 2614, 6535, 13070, 32675, 65350
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65350 ÷ 1 | = | 65350 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 2 | = | 32675 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 5 | = | 13070 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 10 | = | 6535 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 25 | = | 2614 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 50 | = | 1307 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 1307 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 2614 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 6535 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 13070 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 32675 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65350 ÷ 65350 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65350
1 x 65350 | = | 65350 |
2 x 32675 | = | 65350 |
5 x 13070 | = | 65350 |
10 x 6535 | = | 65350 |
25 x 2614 | = | 65350 |
50 x 1307 | = | 65350 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65350
1 + 2 + 5 + 10 + 25 + 50 + 1307 + 2614 + 6535 + 13070 + 32675 + 65350 = 121644
▶ ตัวประกอบของ 65350 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 1307
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65350 = 2 x 5 x 5 x 1307
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65350 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65350 = 2 x 52 x 1307
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65350 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65350 = 2 x 52 x 1307
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65350 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65350 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65350 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32675
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65350
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65350 แบบที่หนึ่ง
- 65350
- 50
- 5
- 10
- 2
- 5
- 1307
- 50
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65350 แบบที่สอง
- 65350
- 2
- 32675
- 5
- 6535
- 5
- 1307
ดังนั้น 65350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65350 =
2 x 5 x 5 x 1307
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65350 =
2 x 52 x 1307 หรือ 21 x 52 x 13071
2. การแยกตัวประกอบของ 65350 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65350 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65350 นั้นก็คือ 2, 5, 1307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65350
2)653505)326755)65351307)13071ดังนั้น 65350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65350 = 2 x 5 x 5 x 1307หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง65350 = 2 x 52 x 1307 หรือ 21 x 52 x 13071วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65350
1แยกตัวประกอบของ 65350 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 130712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65350 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65350 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65350 นั้นก็คือ 2, 5, 1307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65350
2
)65350
5
)32675
5
)6535
1307
)1307
1
ดังนั้น 65350 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65350 = 2 x 5 x 5 x 1307
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65350 = 2 x 52 x 1307 หรือ 21 x 52 x 13071
1แยกตัวประกอบของ 65350 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 13071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 1307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65350 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65350 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇