โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5250 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5250

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5250 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5250 มีทั้งหมด 32 ตัวคือ 1, 2, 3, 5, 6, 7, 10, 14, 15, 21, 25, 30, 35, 42, 50, 70, 75, 105, 125, 150, 175, 210, 250, 350, 375, 525, 750, 875, 1050, 1750, 2625, 5250
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5250 ÷ 1=5250เหลือเศษ 0
5250 ÷ 2=2625เหลือเศษ 0
5250 ÷ 3=1750เหลือเศษ 0
5250 ÷ 5=1050เหลือเศษ 0
5250 ÷ 6=875เหลือเศษ 0
5250 ÷ 7=750เหลือเศษ 0
5250 ÷ 10=525เหลือเศษ 0
5250 ÷ 14=375เหลือเศษ 0
5250 ÷ 15=350เหลือเศษ 0
5250 ÷ 21=250เหลือเศษ 0
5250 ÷ 25=210เหลือเศษ 0
5250 ÷ 30=175เหลือเศษ 0
5250 ÷ 35=150เหลือเศษ 0
5250 ÷ 42=125เหลือเศษ 0
5250 ÷ 50=105เหลือเศษ 0
5250 ÷ 70=75เหลือเศษ 0
5250 ÷ 75=70เหลือเศษ 0
5250 ÷ 105=50เหลือเศษ 0
5250 ÷ 125=42เหลือเศษ 0
5250 ÷ 150=35เหลือเศษ 0
5250 ÷ 175=30เหลือเศษ 0
5250 ÷ 210=25เหลือเศษ 0
5250 ÷ 250=21เหลือเศษ 0
5250 ÷ 350=15เหลือเศษ 0
5250 ÷ 375=14เหลือเศษ 0
5250 ÷ 525=10เหลือเศษ 0
5250 ÷ 750=7เหลือเศษ 0
5250 ÷ 875=6เหลือเศษ 0
5250 ÷ 1050=5เหลือเศษ 0
5250 ÷ 1750=3เหลือเศษ 0
5250 ÷ 2625=2เหลือเศษ 0
5250 ÷ 5250=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5250
1 x 5250
2 x 2625
3 x 1750
5 x 1050
6 x 875
7 x 750
10 x 525
14 x 375
15 x 350
21 x 250
25 x 210
30 x 175
35 x 150
42 x 125
50 x 105
70 x 75
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5250
1 + 2 + 3 + 5 + 6 + 7 + 10 + 14 + 15 + 21 + 25 + 30 + 35 + 42 + 50 + 70 + 75 + 105 + 125 + 150 + 175 + 210 + 250 + 350 + 375 + 525 + 750 + 875 + 1050 + 1750 + 2625 + 5250 = 14976
ตัวประกอบของ 5250 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 5, 7
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5250 = 2 x 3 x 5 x 5 x 5 x 7
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5250 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5250 = 2 x 3 x 53 x 7
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5250 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5250 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5250 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2625
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5250
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5250 แบบที่หนึ่ง
  • 5250
    • 70
      • 7
      • 10
        • 2
        • 5
    • 75
      • 5
      • 15
        • 3
        • 5

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5250 แบบที่สอง
  • 5250
    • 2
    • 2625
      • 3
      • 875
        • 5
        • 175
          • 5
          • 35
            • 5
            • 7
ดังนั้น 5250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5250 = 2 x 3 x 5 x 5 x 5 x 7
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5250 = 2 x 3 x 53 x 7 หรือ 21 x 31 x 53 x 71

2. การแยกตัวประกอบของ 5250 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5250 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5250 นั้นก็คือ 2, 3, 5, 7 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5250

2
)5250
3
)2625
5
)875
5
)175
5
)35
7
)7
1
ดังนั้น 5250 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5250 = 2 x 3 x 5 x 5 x 5 x 7
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5250 = 2 x 3 x 53 x 7 หรือ 21 x 31 x 53 x 71

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5250

1แยกตัวประกอบของ 5250 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 53 x 71
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 4 x 2 = 32
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5250 มีทั้งหมด 32 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5250 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇