ตัวประกอบของ 5252 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5252
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5252 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5252 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5252 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5252 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5252 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 13, 26, 52, 101, 202, 404, 1313, 2626, 5252
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5252 ÷ 1 | = | 5252 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 2 | = | 2626 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 4 | = | 1313 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 13 | = | 404 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 26 | = | 202 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 52 | = | 101 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 101 | = | 52 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 202 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 404 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 1313 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 2626 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 5252 ÷ 5252 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5252
| 1 x 5252 | = | 5252 |
| 2 x 2626 | = | 5252 |
| 4 x 1313 | = | 5252 |
| 13 x 404 | = | 5252 |
| 26 x 202 | = | 5252 |
| 52 x 101 | = | 5252 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5252
1 + 2 + 4 + 13 + 26 + 52 + 101 + 202 + 404 + 1313 + 2626 + 5252 = 9996
▶ ตัวประกอบของ 5252 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 101
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5252 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5252 = 2 x 2 x 13 x 101
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5252 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5252 = 22 x 13 x 101
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 5252 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5252 = 22 x 13 x 101
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5252 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5252 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5252 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2626
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5252
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5252 แบบที่หนึ่ง
- 5252
- 52
- 4
- 2
- 2
- 13
- 4
- 101
- 52
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5252 แบบที่สอง
- 5252
- 2
- 2626
- 2
- 1313
- 13
- 101
ดังนั้น 5252 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5252 =
2 x 2 x 13 x 101
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5252 =
22 x 13 x 101 หรือ 22 x 131 x 1011
2. การแยกตัวประกอบของ 5252 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5252 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5252 นั้นก็คือ 2, 13, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5252
2)52522)262613)1313101)1011ดังนั้น 5252 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5252 = 2 x 2 x 13 x 101หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง5252 = 22 x 13 x 101 หรือ 22 x 131 x 1011วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5252
1แยกตัวประกอบของ 5252 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 10112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5252 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5252 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5252 นั้นก็คือ 2, 13, 101 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5252
2
)5252
2
)2626
13
)1313
101
)101
1
ดังนั้น 5252 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5252 = 2 x 2 x 13 x 101
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5252 = 22 x 13 x 101 หรือ 22 x 131 x 1011
1แยกตัวประกอบของ 5252 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 131 x 1011
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 101 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5252 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5252 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇