ตัวประกอบของ 5178 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5178
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5178 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5178 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5178 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5178 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5178 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 863, 1726, 2589, 5178
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5178 ÷ 1 | = | 5178 | เหลือเศษ 0 |
5178 ÷ 2 | = | 2589 | เหลือเศษ 0 |
5178 ÷ 3 | = | 1726 | เหลือเศษ 0 |
5178 ÷ 6 | = | 863 | เหลือเศษ 0 |
5178 ÷ 863 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
5178 ÷ 1726 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
5178 ÷ 2589 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5178 ÷ 5178 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5178
1 x 5178 | = | 5178 |
2 x 2589 | = | 5178 |
3 x 1726 | = | 5178 |
6 x 863 | = | 5178 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5178
1 + 2 + 3 + 6 + 863 + 1726 + 2589 + 5178 = 10368
▶ ตัวประกอบของ 5178 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 863
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5178 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5178 = 2 x 3 x 863
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5178 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5178 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5178 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2589
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5178
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5178 แบบที่หนึ่ง
- 5178
- 6
- 2
- 3
- 863
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5178 แบบที่สอง
- 5178
- 2
- 2589
- 3
- 863
ดังนั้น 5178 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5178 =
2 x 3 x 863
2. การแยกตัวประกอบของ 5178 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5178 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5178 นั้นก็คือ 2, 3, 863 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5178
2)51783)2589863)8631ดังนั้น 5178 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5178 = 2 x 3 x 863วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5178
1แยกตัวประกอบของ 5178 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 86312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 863 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5178 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5178 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5178 นั้นก็คือ 2, 3, 863 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5178
2
)5178
3
)2589
863
)863
1
ดังนั้น 5178 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5178 = 2 x 3 x 863
1แยกตัวประกอบของ 5178 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 8631
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 863 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5178 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5178 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇