ตัวประกอบของ 5177 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5177
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5177 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5177 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 5177 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5177 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5177 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 31, 167, 5177
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5177 ÷ 1 | = | 5177 | เหลือเศษ 0 |
| 5177 ÷ 31 | = | 167 | เหลือเศษ 0 |
| 5177 ÷ 167 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
| 5177 ÷ 5177 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5177
| 1 x 5177 | = | 5177 |
| 31 x 167 | = | 5177 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5177
1 + 31 + 167 + 5177 = 5376
▶ ตัวประกอบของ 5177 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
31, 167
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5177 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5177 = 31 x 167
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5177 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5177 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5177 มา 1 คู่ เช่น 31 x 167
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5177
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5177
- 5177
- 31
- 167
ดังนั้น 5177 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5177 =
31 x 167
2. การแยกตัวประกอบของ 5177 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5177 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5177 นั้นก็คือ 31, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5177
31)5177167)1671ดังนั้น 5177 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5177 = 31 x 167วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5177
1แยกตัวประกอบของ 5177 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 311 x 16712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5177 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5177 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5177 นั้นก็คือ 31, 167 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5177
31
)5177
167
)167
1
ดังนั้น 5177 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5177 = 31 x 167
1แยกตัวประกอบของ 5177 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 311 x 1671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 167 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5177 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5177 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇