โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5170 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5170

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5170 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5170 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 11, 22, 47, 55, 94, 110, 235, 470, 517, 1034, 2585, 5170
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5170 ÷ 1=5170เหลือเศษ 0
5170 ÷ 2=2585เหลือเศษ 0
5170 ÷ 5=1034เหลือเศษ 0
5170 ÷ 10=517เหลือเศษ 0
5170 ÷ 11=470เหลือเศษ 0
5170 ÷ 22=235เหลือเศษ 0
5170 ÷ 47=110เหลือเศษ 0
5170 ÷ 55=94เหลือเศษ 0
5170 ÷ 94=55เหลือเศษ 0
5170 ÷ 110=47เหลือเศษ 0
5170 ÷ 235=22เหลือเศษ 0
5170 ÷ 470=11เหลือเศษ 0
5170 ÷ 517=10เหลือเศษ 0
5170 ÷ 1034=5เหลือเศษ 0
5170 ÷ 2585=2เหลือเศษ 0
5170 ÷ 5170=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5170
1 x 5170
2 x 2585
5 x 1034
10 x 517
11 x 470
22 x 235
47 x 110
55 x 94
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5170
1 + 2 + 5 + 10 + 11 + 22 + 47 + 55 + 94 + 110 + 235 + 470 + 517 + 1034 + 2585 + 5170 = 10368
ตัวประกอบของ 5170 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 5, 11, 47
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5170 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5170 = 2 x 5 x 11 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5170 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5170 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5170 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2585
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5170
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5170 แบบที่หนึ่ง
  • 5170
    • 55
      • 5
      • 11
    • 94
      • 2
      • 47

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5170 แบบที่สอง
  • 5170
    • 2
    • 2585
      • 5
      • 517
        • 11
        • 47
ดังนั้น 5170 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5170 = 2 x 5 x 11 x 47

2. การแยกตัวประกอบของ 5170 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5170 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5170 นั้นก็คือ 2, 5, 11, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5170

2
)5170
5
)2585
11
)517
47
)47
1
ดังนั้น 5170 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5170 = 2 x 5 x 11 x 47

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5170

1แยกตัวประกอบของ 5170 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 111 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5170 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5170 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇