ตัวประกอบของ 5174 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5174
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5174 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5174 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5174 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5174 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5174 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 199, 398, 2587, 5174
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5174 ÷ 1 | = | 5174 | เหลือเศษ 0 |
5174 ÷ 2 | = | 2587 | เหลือเศษ 0 |
5174 ÷ 13 | = | 398 | เหลือเศษ 0 |
5174 ÷ 26 | = | 199 | เหลือเศษ 0 |
5174 ÷ 199 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
5174 ÷ 398 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
5174 ÷ 2587 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
5174 ÷ 5174 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5174
1 x 5174 | = | 5174 |
2 x 2587 | = | 5174 |
13 x 398 | = | 5174 |
26 x 199 | = | 5174 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5174
1 + 2 + 13 + 26 + 199 + 398 + 2587 + 5174 = 8400
▶ ตัวประกอบของ 5174 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 199
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5174 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5174 = 2 x 13 x 199
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5174 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5174 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5174 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2587
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5174
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5174 แบบที่หนึ่ง
- 5174
- 26
- 2
- 13
- 199
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5174 แบบที่สอง
- 5174
- 2
- 2587
- 13
- 199
ดังนั้น 5174 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5174 =
2 x 13 x 199
2. การแยกตัวประกอบของ 5174 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5174 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5174 นั้นก็คือ 2, 13, 199 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5174
2)517413)2587199)1991ดังนั้น 5174 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5174 = 2 x 13 x 199วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5174
1แยกตัวประกอบของ 5174 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 19912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 199 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5174 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5174 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5174 นั้นก็คือ 2, 13, 199 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5174
2
)5174
13
)2587
199
)199
1
ดังนั้น 5174 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5174 = 2 x 13 x 199
1แยกตัวประกอบของ 5174 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 1991
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 199 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5174 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5174 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇