ตัวประกอบของ 3494 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3494
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 3494 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 3494 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 3494 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 3494 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 3494 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 1747, 3494
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 3494 ÷ 1 | = | 3494 | เหลือเศษ 0 |
| 3494 ÷ 2 | = | 1747 | เหลือเศษ 0 |
| 3494 ÷ 1747 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 3494 ÷ 3494 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3494
| 1 x 3494 | = | 3494 |
| 2 x 1747 | = | 3494 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3494
1 + 2 + 1747 + 3494 = 5244
▶ ตัวประกอบของ 3494 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1747
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 3494 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3494 = 2 x 1747
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 3494 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3494 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3494 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1747
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3494
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3494
- 3494
- 2
- 1747
ดังนั้น 3494 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3494 =
2 x 1747
2. การแยกตัวประกอบของ 3494 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 3494 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3494 นั้นก็คือ 2, 1747 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3494
2)34941747)17471ดังนั้น 3494 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้3494 = 2 x 1747วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3494
1แยกตัวประกอบของ 3494 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 174712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1747 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3494 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 3494 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3494 นั้นก็คือ 2, 1747 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3494
2
)3494
1747
)1747
1
ดังนั้น 3494 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3494 = 2 x 1747
1แยกตัวประกอบของ 3494 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 17471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1747 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3494 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3494 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇