ตัวประกอบของ 2700 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2700
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2700 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2700 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2700 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2700 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2700 มีทั้งหมด 36 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 9, 10, 12, 15, 18, 20, 25, 27, 30, 36, 45, 50, 54, 60, 75, 90, 100, 108, 135, 150, 180, 225, 270, 300, 450, 540, 675, 900, 1350, 2700
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 2700 ÷ 1 | = | 2700 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 2 | = | 1350 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 3 | = | 900 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 4 | = | 675 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 5 | = | 540 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 6 | = | 450 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 9 | = | 300 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 10 | = | 270 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 12 | = | 225 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 15 | = | 180 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 18 | = | 150 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 20 | = | 135 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 25 | = | 108 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 27 | = | 100 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 30 | = | 90 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 36 | = | 75 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 45 | = | 60 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 50 | = | 54 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 54 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 60 | = | 45 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 75 | = | 36 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 90 | = | 30 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 100 | = | 27 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 108 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 135 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 150 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 180 | = | 15 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 225 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 270 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 300 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 450 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 540 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 675 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 900 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 1350 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 2700 ÷ 2700 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2700
| 1 x 2700 | = | 2700 |
| 2 x 1350 | = | 2700 |
| 3 x 900 | = | 2700 |
| 4 x 675 | = | 2700 |
| 5 x 540 | = | 2700 |
| 6 x 450 | = | 2700 |
| 9 x 300 | = | 2700 |
| 10 x 270 | = | 2700 |
| 12 x 225 | = | 2700 |
| 15 x 180 | = | 2700 |
| 18 x 150 | = | 2700 |
| 20 x 135 | = | 2700 |
| 25 x 108 | = | 2700 |
| 27 x 100 | = | 2700 |
| 30 x 90 | = | 2700 |
| 36 x 75 | = | 2700 |
| 45 x 60 | = | 2700 |
| 50 x 54 | = | 2700 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2700
1 + 2 + 3 + 4 + 5 + 6 + 9 + 10 + 12 + 15 + 18 + 20 + 25 + 27 + 30 + 36 + 45 + 50 + 54 + 60 + 75 + 90 + 100 + 108 + 135 + 150 + 180 + 225 + 270 + 300 + 450 + 540 + 675 + 900 + 1350 + 2700 = 8680
▶ ตัวประกอบของ 2700 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 5
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2700 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2700 = 2 x 2 x 3 x 3 x 3 x 5 x 5
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2700 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2700 = 22 x 33 x 52
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2700 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2700 = 22 x 33 x 52
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2700 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2700 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2700 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1350
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2700
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2700 แบบที่หนึ่ง
- 2700
- 50
- 5
- 10
- 2
- 5
- 54
- 6
- 2
- 3
- 9
- 3
- 3
- 6
- 50
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2700 แบบที่สอง
- 2700
- 2
- 1350
- 2
- 675
- 3
- 225
- 3
- 75
- 3
- 25
- 5
- 5
ดังนั้น 2700 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2700 =
2 x 2 x 3 x 3 x 3 x 5 x 5
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2700 =
22 x 33 x 52
2. การแยกตัวประกอบของ 2700 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2700 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2700 นั้นก็คือ 2, 3, 5 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2700
2)27002)13503)6753)2253)755)255)51ดังนั้น 2700 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2700 = 2 x 2 x 3 x 3 x 3 x 5 x 5หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง2700 = 22 x 33 x 52วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2700
1แยกตัวประกอบของ 2700 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 33 x 522ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 4 x 3 = 36✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2700 มีทั้งหมด 36 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2700 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2700 นั้นก็คือ 2, 3, 5 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2700
2
)2700
2
)1350
3
)675
3
)225
3
)75
5
)25
5
)5
1
ดังนั้น 2700 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2700 = 2 x 2 x 3 x 3 x 3 x 5 x 5
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2700 = 22 x 33 x 52
1แยกตัวประกอบของ 2700 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 33 x 52
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 4 x 3 = 36✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2700 มีทั้งหมด 36 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2700 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇