ตัวประกอบของ 2692 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2692
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2692 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2692 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2692 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2692 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2692 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 673, 1346, 2692
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2692 ÷ 1 | = | 2692 | เหลือเศษ 0 |
2692 ÷ 2 | = | 1346 | เหลือเศษ 0 |
2692 ÷ 4 | = | 673 | เหลือเศษ 0 |
2692 ÷ 673 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
2692 ÷ 1346 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
2692 ÷ 2692 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2692
1 x 2692 | = | 2692 |
2 x 1346 | = | 2692 |
4 x 673 | = | 2692 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2692
1 + 2 + 4 + 673 + 1346 + 2692 = 4718
▶ ตัวประกอบของ 2692 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 673
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2692 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2692 = 2 x 2 x 673
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2692 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2692 = 22 x 673
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2692 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2692 = 22 x 673
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2692 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2692 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2692 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1346
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2692
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2692 แบบที่หนึ่ง
- 2692
- 4
- 2
- 2
- 673
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2692 แบบที่สอง
- 2692
- 2
- 1346
- 2
- 673
ดังนั้น 2692 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2692 =
2 x 2 x 673
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2692 =
22 x 673 หรือ 22 x 6731
2. การแยกตัวประกอบของ 2692 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2692 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2692 นั้นก็คือ 2, 673 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2692
2)26922)1346673)6731ดังนั้น 2692 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2692 = 2 x 2 x 673หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง2692 = 22 x 673 หรือ 22 x 6731วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2692
1แยกตัวประกอบของ 2692 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 67312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 673 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2692 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2692 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2692 นั้นก็คือ 2, 673 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2692
2
)2692
2
)1346
673
)673
1
ดังนั้น 2692 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2692 = 2 x 2 x 673
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2692 = 22 x 673 หรือ 22 x 6731
1แยกตัวประกอบของ 2692 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 6731
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 673 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2692 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2692 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇