ตัวประกอบของ 2526 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2526
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2526 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2526 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2526 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2526 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2526 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 421, 842, 1263, 2526
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2526 ÷ 1 | = | 2526 | เหลือเศษ 0 |
2526 ÷ 2 | = | 1263 | เหลือเศษ 0 |
2526 ÷ 3 | = | 842 | เหลือเศษ 0 |
2526 ÷ 6 | = | 421 | เหลือเศษ 0 |
2526 ÷ 421 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
2526 ÷ 842 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
2526 ÷ 1263 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
2526 ÷ 2526 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2526
1 x 2526 | = | 2526 |
2 x 1263 | = | 2526 |
3 x 842 | = | 2526 |
6 x 421 | = | 2526 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2526
1 + 2 + 3 + 6 + 421 + 842 + 1263 + 2526 = 5064
▶ ตัวประกอบของ 2526 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 421
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2526 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2526 = 2 x 3 x 421
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2526 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2526 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2526 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1263
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2526
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2526 แบบที่หนึ่ง
- 2526
- 6
- 2
- 3
- 421
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2526 แบบที่สอง
- 2526
- 2
- 1263
- 3
- 421
ดังนั้น 2526 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2526 =
2 x 3 x 421
2. การแยกตัวประกอบของ 2526 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2526 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2526 นั้นก็คือ 2, 3, 421 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2526
2)25263)1263421)4211ดังนั้น 2526 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2526 = 2 x 3 x 421วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2526
1แยกตัวประกอบของ 2526 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 42112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 421 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2526 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2526 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2526 นั้นก็คือ 2, 3, 421 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2526
2
)2526
3
)1263
421
)421
1
ดังนั้น 2526 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2526 = 2 x 3 x 421
1แยกตัวประกอบของ 2526 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 4211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 421 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2526 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2526 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇