ตัวประกอบของ 25142 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25142
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25142 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25142 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25142 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25142 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25142 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 967, 1934, 12571, 25142
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25142 ÷ 1 | = | 25142 | เหลือเศษ 0 |
| 25142 ÷ 2 | = | 12571 | เหลือเศษ 0 |
| 25142 ÷ 13 | = | 1934 | เหลือเศษ 0 |
| 25142 ÷ 26 | = | 967 | เหลือเศษ 0 |
| 25142 ÷ 967 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
| 25142 ÷ 1934 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 25142 ÷ 12571 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 25142 ÷ 25142 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25142
| 1 x 25142 | = | 25142 |
| 2 x 12571 | = | 25142 |
| 13 x 1934 | = | 25142 |
| 26 x 967 | = | 25142 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25142
1 + 2 + 13 + 26 + 967 + 1934 + 12571 + 25142 = 40656
▶ ตัวประกอบของ 25142 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 967
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25142 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25142 = 2 x 13 x 967
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25142 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25142 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25142 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12571
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25142
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25142 แบบที่หนึ่ง
- 25142
- 26
- 2
- 13
- 967
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25142 แบบที่สอง
- 25142
- 2
- 12571
- 13
- 967
ดังนั้น 25142 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25142 =
2 x 13 x 967
2. การแยกตัวประกอบของ 25142 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25142 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25142 นั้นก็คือ 2, 13, 967 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25142
2)2514213)12571967)9671ดังนั้น 25142 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25142 = 2 x 13 x 967วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25142
1แยกตัวประกอบของ 25142 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 96712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 967 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25142 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25142 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25142 นั้นก็คือ 2, 13, 967 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25142
2
)25142
13
)12571
967
)967
1
ดังนั้น 25142 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25142 = 2 x 13 x 967
1แยกตัวประกอบของ 25142 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 9671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 967 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25142 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25142 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇