โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 25144 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25144

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 25144 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 25144 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 8, 14, 28, 56, 449, 898, 1796, 3143, 3592, 6286, 12572, 25144
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25144 ÷ 1=25144เหลือเศษ 0
25144 ÷ 2=12572เหลือเศษ 0
25144 ÷ 4=6286เหลือเศษ 0
25144 ÷ 7=3592เหลือเศษ 0
25144 ÷ 8=3143เหลือเศษ 0
25144 ÷ 14=1796เหลือเศษ 0
25144 ÷ 28=898เหลือเศษ 0
25144 ÷ 56=449เหลือเศษ 0
25144 ÷ 449=56เหลือเศษ 0
25144 ÷ 898=28เหลือเศษ 0
25144 ÷ 1796=14เหลือเศษ 0
25144 ÷ 3143=8เหลือเศษ 0
25144 ÷ 3592=7เหลือเศษ 0
25144 ÷ 6286=4เหลือเศษ 0
25144 ÷ 12572=2เหลือเศษ 0
25144 ÷ 25144=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25144
1 x 25144
2 x 12572
4 x 6286
7 x 3592
8 x 3143
14 x 1796
28 x 898
56 x 449
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25144
1 + 2 + 4 + 7 + 8 + 14 + 28 + 56 + 449 + 898 + 1796 + 3143 + 3592 + 6286 + 12572 + 25144 = 54000
ตัวประกอบของ 25144 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 449
การแยกตัวประกอบคืออะไร

25144 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

25144 = 2 x 2 x 2 x 7 x 449
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25144 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25144 = 23 x 7 x 449
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 25144 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25144 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25144 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12572
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25144
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25144 แบบที่หนึ่ง
  • 25144
    • 56
      • 7
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 449

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25144 แบบที่สอง
  • 25144
    • 2
    • 12572
      • 2
      • 6286
        • 2
        • 3143
          • 7
          • 449
ดังนั้น 25144 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25144 = 2 x 2 x 2 x 7 x 449
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25144 = 23 x 7 x 449 หรือ 23 x 71 x 4491

2. การแยกตัวประกอบของ 25144 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 25144 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25144 นั้นก็คือ 2, 7, 449 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25144

2
)25144
2
)12572
2
)6286
7
)3143
449
)449
1
ดังนั้น 25144 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25144 = 2 x 2 x 2 x 7 x 449
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25144 = 23 x 7 x 449 หรือ 23 x 71 x 4491

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25144

1แยกตัวประกอบของ 25144 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 71 x 4491
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 449 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25144 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25144 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇