ตัวประกอบของ 2506 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2506
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2506 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2506 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2506 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2506 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2506 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 7, 14, 179, 358, 1253, 2506
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2506 ÷ 1 | = | 2506 | เหลือเศษ 0 |
2506 ÷ 2 | = | 1253 | เหลือเศษ 0 |
2506 ÷ 7 | = | 358 | เหลือเศษ 0 |
2506 ÷ 14 | = | 179 | เหลือเศษ 0 |
2506 ÷ 179 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
2506 ÷ 358 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
2506 ÷ 1253 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
2506 ÷ 2506 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2506
1 x 2506 | = | 2506 |
2 x 1253 | = | 2506 |
7 x 358 | = | 2506 |
14 x 179 | = | 2506 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2506
1 + 2 + 7 + 14 + 179 + 358 + 1253 + 2506 = 4320
▶ ตัวประกอบของ 2506 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 179
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2506 = 2 x 7 x 179
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2506 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2506 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2506 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1253
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2506
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2506 แบบที่หนึ่ง
- 2506
- 14
- 2
- 7
- 179
- 14
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2506 แบบที่สอง
- 2506
- 2
- 1253
- 7
- 179
ดังนั้น 2506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2506 =
2 x 7 x 179
2. การแยกตัวประกอบของ 2506 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2506 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2506 นั้นก็คือ 2, 7, 179 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2506
2)25067)1253179)1791ดังนั้น 2506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2506 = 2 x 7 x 179วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2506
1แยกตัวประกอบของ 2506 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 17912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 179 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2506 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2506 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2506 นั้นก็คือ 2, 7, 179 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2506
2
)2506
7
)1253
179
)179
1
ดังนั้น 2506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2506 = 2 x 7 x 179
1แยกตัวประกอบของ 2506 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 1791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 179 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2506 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2506 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇