ตัวประกอบของ 1338 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1338
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1338 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1338 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1338 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1338 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1338 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 223, 446, 669, 1338
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1338 ÷ 1 | = | 1338 | เหลือเศษ 0 |
1338 ÷ 2 | = | 669 | เหลือเศษ 0 |
1338 ÷ 3 | = | 446 | เหลือเศษ 0 |
1338 ÷ 6 | = | 223 | เหลือเศษ 0 |
1338 ÷ 223 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
1338 ÷ 446 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
1338 ÷ 669 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
1338 ÷ 1338 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1338
1 x 1338 | = | 1338 |
2 x 669 | = | 1338 |
3 x 446 | = | 1338 |
6 x 223 | = | 1338 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1338
1 + 2 + 3 + 6 + 223 + 446 + 669 + 1338 = 2688
▶ ตัวประกอบของ 1338 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 223
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1338 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1338 = 2 x 3 x 223
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1338 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1338 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1338 มา 1 คู่ เช่น 2 x 669
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1338
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1338 แบบที่หนึ่ง
- 1338
- 6
- 2
- 3
- 223
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1338 แบบที่สอง
- 1338
- 2
- 669
- 3
- 223
ดังนั้น 1338 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1338 =
2 x 3 x 223
2. การแยกตัวประกอบของ 1338 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1338 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1338 นั้นก็คือ 2, 3, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1338
2)13383)669223)2231ดังนั้น 1338 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1338 = 2 x 3 x 223วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1338
1แยกตัวประกอบของ 1338 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 22312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1338 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1338 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1338 นั้นก็คือ 2, 3, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1338
2
)1338
3
)669
223
)223
1
ดังนั้น 1338 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1338 = 2 x 3 x 223
1แยกตัวประกอบของ 1338 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 2231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1338 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1338 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇