ตัวประกอบของ 1334 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1334
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1334 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1334 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1334 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1334 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1334 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 23, 29, 46, 58, 667, 1334
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1334 ÷ 1 | = | 1334 | เหลือเศษ 0 |
1334 ÷ 2 | = | 667 | เหลือเศษ 0 |
1334 ÷ 23 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
1334 ÷ 29 | = | 46 | เหลือเศษ 0 |
1334 ÷ 46 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
1334 ÷ 58 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
1334 ÷ 667 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
1334 ÷ 1334 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1334
1 x 1334 | = | 1334 |
2 x 667 | = | 1334 |
23 x 58 | = | 1334 |
29 x 46 | = | 1334 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1334
1 + 2 + 23 + 29 + 46 + 58 + 667 + 1334 = 2160
▶ ตัวประกอบของ 1334 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 23, 29
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1334 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1334 = 2 x 23 x 29
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1334 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1334 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1334 มา 1 คู่ เช่น 2 x 667
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1334
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1334 แบบที่หนึ่ง
- 1334
- 29
- 46
- 2
- 23
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1334 แบบที่สอง
- 1334
- 2
- 667
- 23
- 29
ดังนั้น 1334 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1334 =
2 x 23 x 29
2. การแยกตัวประกอบของ 1334 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1334 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1334 นั้นก็คือ 2, 23, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1334
2)133423)66729)291ดังนั้น 1334 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1334 = 2 x 23 x 29วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1334
1แยกตัวประกอบของ 1334 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 2912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1334 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1334 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1334 นั้นก็คือ 2, 23, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1334
2
)1334
23
)667
29
)29
1
ดังนั้น 1334 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1334 = 2 x 23 x 29
1แยกตัวประกอบของ 1334 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 231 x 291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1334 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1334 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇