ตัวประกอบของ 1324 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1324
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1324 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1324 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1324 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1324 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1324 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 331, 662, 1324
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1324 ÷ 1 | = | 1324 | เหลือเศษ 0 |
1324 ÷ 2 | = | 662 | เหลือเศษ 0 |
1324 ÷ 4 | = | 331 | เหลือเศษ 0 |
1324 ÷ 331 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
1324 ÷ 662 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
1324 ÷ 1324 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1324
1 x 1324 | = | 1324 |
2 x 662 | = | 1324 |
4 x 331 | = | 1324 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1324
1 + 2 + 4 + 331 + 662 + 1324 = 2324
▶ ตัวประกอบของ 1324 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 331
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1324 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1324 = 2 x 2 x 331
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1324 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1324 = 22 x 331
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1324 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1324 = 22 x 331
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1324 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1324 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1324 มา 1 คู่ เช่น 2 x 662
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1324
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1324 แบบที่หนึ่ง
- 1324
- 4
- 2
- 2
- 331
- 4
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1324 แบบที่สอง
- 1324
- 2
- 662
- 2
- 331
ดังนั้น 1324 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1324 =
2 x 2 x 331
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1324 =
22 x 331 หรือ 22 x 3311
2. การแยกตัวประกอบของ 1324 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1324 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1324 นั้นก็คือ 2, 331 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1324
2)13242)662331)3311ดังนั้น 1324 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1324 = 2 x 2 x 331หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง1324 = 22 x 331 หรือ 22 x 3311วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1324
1แยกตัวประกอบของ 1324 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 33112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 331 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1324 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1324 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1324 นั้นก็คือ 2, 331 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1324
2
)1324
2
)662
331
)331
1
ดังนั้น 1324 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1324 = 2 x 2 x 331
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1324 = 22 x 331 หรือ 22 x 3311
1แยกตัวประกอบของ 1324 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 3311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 331 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1324 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1324 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇