โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 1325 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1325

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 1325 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 1325 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 5, 25, 53, 265, 1325
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1325 ÷ 1=1325เหลือเศษ 0
1325 ÷ 5=265เหลือเศษ 0
1325 ÷ 25=53เหลือเศษ 0
1325 ÷ 53=25เหลือเศษ 0
1325 ÷ 265=5เหลือเศษ 0
1325 ÷ 1325=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1325
1 x 1325
5 x 265
25 x 53
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1325
1 + 5 + 25 + 53 + 265 + 1325 = 1674
ตัวประกอบของ 1325 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 53
การแยกตัวประกอบคืออะไร

1325 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

1325 = 5 x 5 x 53
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 1325 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
1325 = 52 x 53
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 1325 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1325 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1325 มา 1 คู่ เช่น 5 x 265
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1325
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1325 แบบที่หนึ่ง
  • 1325
    • 25
      • 5
      • 5
    • 53

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1325 แบบที่สอง
  • 1325
    • 5
    • 265
      • 5
      • 53
ดังนั้น 1325 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1325 = 5 x 5 x 53
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1325 = 52 x 53 หรือ 52 x 531

2. การแยกตัวประกอบของ 1325 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 1325 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1325 นั้นก็คือ 5, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1325

5
)1325
5
)265
53
)53
1
ดังนั้น 1325 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1325 = 5 x 5 x 53
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
1325 = 52 x 53 หรือ 52 x 531

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1325

1แยกตัวประกอบของ 1325 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 52 x 531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1325 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1325 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇