ตัวประกอบของ 65463 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65463
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65463 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65463 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65463 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65463 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65463 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 3, 21821, 65463
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65463 ÷ 1 | = | 65463 | เหลือเศษ 0 |
65463 ÷ 3 | = | 21821 | เหลือเศษ 0 |
65463 ÷ 21821 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
65463 ÷ 65463 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65463
1 x 65463 | = | 65463 |
3 x 21821 | = | 65463 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65463
1 + 3 + 21821 + 65463 = 87288
▶ ตัวประกอบของ 65463 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 21821
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65463 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65463 = 3 x 21821
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65463 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65463 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65463 มา 1 คู่ เช่น 3 x 21821
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65463
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65463
- 65463
- 3
- 21821
ดังนั้น 65463 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65463 =
3 x 21821
2. การแยกตัวประกอบของ 65463 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65463 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65463 นั้นก็คือ 3, 21821 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65463
3)6546321821)218211ดังนั้น 65463 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65463 = 3 x 21821วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65463
1แยกตัวประกอบของ 65463 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 2182112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 21821 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65463 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65463 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65463 นั้นก็คือ 3, 21821 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65463
3
)65463
21821
)21821
1
ดังนั้น 65463 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65463 = 3 x 21821
1แยกตัวประกอบของ 65463 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 218211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 21821 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65463 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65463 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇