ตัวประกอบของ 9822 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 9822
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 9822 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 9822 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 9822 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 9822 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 9822 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 1637, 3274, 4911, 9822
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
9822 ÷ 1 | = | 9822 | เหลือเศษ 0 |
9822 ÷ 2 | = | 4911 | เหลือเศษ 0 |
9822 ÷ 3 | = | 3274 | เหลือเศษ 0 |
9822 ÷ 6 | = | 1637 | เหลือเศษ 0 |
9822 ÷ 1637 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
9822 ÷ 3274 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
9822 ÷ 4911 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
9822 ÷ 9822 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 9822
1 x 9822 | = | 9822 |
2 x 4911 | = | 9822 |
3 x 3274 | = | 9822 |
6 x 1637 | = | 9822 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 9822
1 + 2 + 3 + 6 + 1637 + 3274 + 4911 + 9822 = 19656
▶ ตัวประกอบของ 9822 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 1637
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 9822 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9822 = 2 x 3 x 1637
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 9822 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 9822 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 9822 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4911
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9822
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9822 แบบที่หนึ่ง
- 9822
- 6
- 2
- 3
- 1637
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 9822 แบบที่สอง
- 9822
- 2
- 4911
- 3
- 1637
ดังนั้น 9822 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9822 =
2 x 3 x 1637
2. การแยกตัวประกอบของ 9822 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 9822 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9822 นั้นก็คือ 2, 3, 1637 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9822
2)98223)49111637)16371ดังนั้น 9822 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้9822 = 2 x 3 x 1637วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 9822
1แยกตัวประกอบของ 9822 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 163712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1637 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9822 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 9822 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 9822 นั้นก็คือ 2, 3, 1637 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 9822
2
)9822
3
)4911
1637
)1637
1
ดังนั้น 9822 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
9822 = 2 x 3 x 1637
1แยกตัวประกอบของ 9822 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 16371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1637 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 9822 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 9822 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇