ตัวประกอบของ 68435 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 68435
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 68435 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 68435 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 68435 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 68435 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 68435 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 5, 13687, 68435
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 68435 ÷ 1 | = | 68435 | เหลือเศษ 0 |
| 68435 ÷ 5 | = | 13687 | เหลือเศษ 0 |
| 68435 ÷ 13687 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 68435 ÷ 68435 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 68435
| 1 x 68435 | = | 68435 |
| 5 x 13687 | = | 68435 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 68435
1 + 5 + 13687 + 68435 = 82128
▶ ตัวประกอบของ 68435 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 13687
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 68435 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68435 = 5 x 13687
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 68435 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 68435 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 68435 มา 1 คู่ เช่น 5 x 13687
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68435
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 68435
- 68435
- 5
- 13687
ดังนั้น 68435 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68435 =
5 x 13687
2. การแยกตัวประกอบของ 68435 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 68435 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68435 นั้นก็คือ 5, 13687 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68435
5)6843513687)136871ดังนั้น 68435 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้68435 = 5 x 13687วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 68435
1แยกตัวประกอบของ 68435 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 1368712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13687 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68435 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 68435 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 68435 นั้นก็คือ 5, 13687 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 68435
5
)68435
13687
)13687
1
ดังนั้น 68435 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
68435 = 5 x 13687
1แยกตัวประกอบของ 68435 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 136871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13687 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 68435 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 68435 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇