ตัวประกอบของ 65546 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65546
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65546 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65546 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65546 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65546 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65546 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 13, 26, 2521, 5042, 32773, 65546
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65546 ÷ 1 | = | 65546 | เหลือเศษ 0 |
65546 ÷ 2 | = | 32773 | เหลือเศษ 0 |
65546 ÷ 13 | = | 5042 | เหลือเศษ 0 |
65546 ÷ 26 | = | 2521 | เหลือเศษ 0 |
65546 ÷ 2521 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
65546 ÷ 5042 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
65546 ÷ 32773 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65546 ÷ 65546 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65546
1 x 65546 | = | 65546 |
2 x 32773 | = | 65546 |
13 x 5042 | = | 65546 |
26 x 2521 | = | 65546 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65546
1 + 2 + 13 + 26 + 2521 + 5042 + 32773 + 65546 = 105924
▶ ตัวประกอบของ 65546 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 13, 2521
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65546 = 2 x 13 x 2521
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65546 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65546 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65546 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32773
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65546
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65546 แบบที่หนึ่ง
- 65546
- 26
- 2
- 13
- 2521
- 26
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65546 แบบที่สอง
- 65546
- 2
- 32773
- 13
- 2521
ดังนั้น 65546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65546 =
2 x 13 x 2521
2. การแยกตัวประกอบของ 65546 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65546 นั้นก็คือ 2, 13, 2521 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65546
2)6554613)327732521)25211ดังนั้น 65546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65546 = 2 x 13 x 2521วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65546
1แยกตัวประกอบของ 65546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 252112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2521 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65546 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65546 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65546 นั้นก็คือ 2, 13, 2521 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65546
2
)65546
13
)32773
2521
)2521
1
ดังนั้น 65546 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65546 = 2 x 13 x 2521
1แยกตัวประกอบของ 65546 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 131 x 25211
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2521 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65546 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65546 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇