ตัวประกอบของ 65416 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65416
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65416 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65416 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65416 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65416 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65416 มีทั้งหมด 32 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 13, 17, 26, 34, 37, 52, 68, 74, 104, 136, 148, 221, 296, 442, 481, 629, 884, 962, 1258, 1768, 1924, 2516, 3848, 5032, 8177, 16354, 32708, 65416
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65416 ÷ 1 | = | 65416 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 2 | = | 32708 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 4 | = | 16354 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 8 | = | 8177 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 13 | = | 5032 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 17 | = | 3848 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 26 | = | 2516 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 34 | = | 1924 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 37 | = | 1768 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 52 | = | 1258 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 68 | = | 962 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 74 | = | 884 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 104 | = | 629 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 136 | = | 481 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 148 | = | 442 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 221 | = | 296 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 296 | = | 221 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 442 | = | 148 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 481 | = | 136 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 629 | = | 104 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 884 | = | 74 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 962 | = | 68 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 1258 | = | 52 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 1768 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 1924 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 2516 | = | 26 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 3848 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 5032 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 8177 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 16354 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 32708 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65416 ÷ 65416 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65416
1 x 65416 | = | 65416 |
2 x 32708 | = | 65416 |
4 x 16354 | = | 65416 |
8 x 8177 | = | 65416 |
13 x 5032 | = | 65416 |
17 x 3848 | = | 65416 |
26 x 2516 | = | 65416 |
34 x 1924 | = | 65416 |
37 x 1768 | = | 65416 |
52 x 1258 | = | 65416 |
68 x 962 | = | 65416 |
74 x 884 | = | 65416 |
104 x 629 | = | 65416 |
136 x 481 | = | 65416 |
148 x 442 | = | 65416 |
221 x 296 | = | 65416 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65416
1 + 2 + 4 + 8 + 13 + 17 + 26 + 34 + 37 + 52 + 68 + 74 + 104 + 136 + 148 + 221 + 296 + 442 + 481 + 629 + 884 + 962 + 1258 + 1768 + 1924 + 2516 + 3848 + 5032 + 8177 + 16354 + 32708 + 65416 = 143640
▶ ตัวประกอบของ 65416 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 13, 17, 37
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65416 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65416 = 2 x 2 x 2 x 13 x 17 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65416 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65416 = 23 x 13 x 17 x 37
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 65416 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
65416 = 23 x 13 x 17 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65416 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65416 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65416 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32708
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65416
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65416 แบบที่หนึ่ง
- 65416
- 221
- 13
- 17
- 296
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 37
- 8
- 221
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65416 แบบที่สอง
- 65416
- 2
- 32708
- 2
- 16354
- 2
- 8177
- 13
- 629
- 17
- 37
ดังนั้น 65416 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65416 =
2 x 2 x 2 x 13 x 17 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65416 =
23 x 13 x 17 x 37 หรือ 23 x 131 x 171 x 371
2. การแยกตัวประกอบของ 65416 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65416 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65416 นั้นก็คือ 2, 13, 17, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65416
2)654162)327082)1635413)817717)62937)371ดังนั้น 65416 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65416 = 2 x 2 x 2 x 13 x 17 x 37หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง65416 = 23 x 13 x 17 x 37 หรือ 23 x 131 x 171 x 371วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65416
1แยกตัวประกอบของ 65416 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 131 x 171 x 3712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 = 32✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65416 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65416 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65416 นั้นก็คือ 2, 13, 17, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65416
2
)65416
2
)32708
2
)16354
13
)8177
17
)629
37
)37
1
ดังนั้น 65416 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65416 = 2 x 2 x 2 x 13 x 17 x 37
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
65416 = 23 x 13 x 17 x 37 หรือ 23 x 131 x 171 x 371
1แยกตัวประกอบของ 65416 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 131 x 171 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 = 32✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65416 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65416 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇