ตัวประกอบของ 65155 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65155
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65155 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65155 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65155 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65155 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65155 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 83, 157, 415, 785, 13031, 65155
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65155 ÷ 1 | = | 65155 | เหลือเศษ 0 |
65155 ÷ 5 | = | 13031 | เหลือเศษ 0 |
65155 ÷ 83 | = | 785 | เหลือเศษ 0 |
65155 ÷ 157 | = | 415 | เหลือเศษ 0 |
65155 ÷ 415 | = | 157 | เหลือเศษ 0 |
65155 ÷ 785 | = | 83 | เหลือเศษ 0 |
65155 ÷ 13031 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
65155 ÷ 65155 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65155
1 x 65155 | = | 65155 |
5 x 13031 | = | 65155 |
83 x 785 | = | 65155 |
157 x 415 | = | 65155 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65155
1 + 5 + 83 + 157 + 415 + 785 + 13031 + 65155 = 79632
▶ ตัวประกอบของ 65155 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 83, 157
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65155 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65155 = 5 x 83 x 157
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65155 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65155 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65155 มา 1 คู่ เช่น 5 x 13031
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65155
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65155 แบบที่หนึ่ง
- 65155
- 157
- 415
- 5
- 83
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65155 แบบที่สอง
- 65155
- 5
- 13031
- 83
- 157
ดังนั้น 65155 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65155 =
5 x 83 x 157
2. การแยกตัวประกอบของ 65155 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65155 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65155 นั้นก็คือ 5, 83, 157 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65155
5)6515583)13031157)1571ดังนั้น 65155 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65155 = 5 x 83 x 157วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65155
1แยกตัวประกอบของ 65155 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 831 x 15712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 157 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65155 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65155 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65155 นั้นก็คือ 5, 83, 157 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65155
5
)65155
83
)13031
157
)157
1
ดังนั้น 65155 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65155 = 5 x 83 x 157
1แยกตัวประกอบของ 65155 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 831 x 1571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 157 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65155 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65155 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇