ตัวประกอบของ 65162 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65162
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65162 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65162 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65162 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65162 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65162 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 31, 62, 1051, 2102, 32581, 65162
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65162 ÷ 1 | = | 65162 | เหลือเศษ 0 |
65162 ÷ 2 | = | 32581 | เหลือเศษ 0 |
65162 ÷ 31 | = | 2102 | เหลือเศษ 0 |
65162 ÷ 62 | = | 1051 | เหลือเศษ 0 |
65162 ÷ 1051 | = | 62 | เหลือเศษ 0 |
65162 ÷ 2102 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
65162 ÷ 32581 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65162 ÷ 65162 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65162
1 x 65162 | = | 65162 |
2 x 32581 | = | 65162 |
31 x 2102 | = | 65162 |
62 x 1051 | = | 65162 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65162
1 + 2 + 31 + 62 + 1051 + 2102 + 32581 + 65162 = 100992
▶ ตัวประกอบของ 65162 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 31, 1051
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65162 = 2 x 31 x 1051
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65162 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65162 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65162 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32581
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65162
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65162 แบบที่หนึ่ง
- 65162
- 62
- 2
- 31
- 1051
- 62
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65162 แบบที่สอง
- 65162
- 2
- 32581
- 31
- 1051
ดังนั้น 65162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65162 =
2 x 31 x 1051
2. การแยกตัวประกอบของ 65162 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65162 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65162 นั้นก็คือ 2, 31, 1051 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65162
2)6516231)325811051)10511ดังนั้น 65162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65162 = 2 x 31 x 1051วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65162
1แยกตัวประกอบของ 65162 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 311 x 105112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1051 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65162 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65162 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65162 นั้นก็คือ 2, 31, 1051 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65162
2
)65162
31
)32581
1051
)1051
1
ดังนั้น 65162 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65162 = 2 x 31 x 1051
1แยกตัวประกอบของ 65162 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 311 x 10511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1051 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65162 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65162 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇